ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรม
1. การป้องกันและการลักทรัพย์ในที่พักอาศัย
2. การป้องกันการลักทรัพย์ในที่สาธารณะ
3. การป้องกันการปล้นทรัพย์ในสถานที่ประกอบการค้า
4. การป้องกันการปล้นชิงหรือวิ่งราวผู้เบิกเงิน
5. การป้องกันการชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายในอาคาร
8. การป้องกันการหลอกลวงโดยการจัดหางาน
10. การป้องกันการจับเรียกค่าไถ่
11. การป้องกันการข่มขืนกระทำชำเรา
12. การป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์
13. การป้องกันการชิงทรัพย์ในร้านเสริมสวย คลินิก
อาชญากรรมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้หากเราดำรงชีวิตอยู่บนความประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน การมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมเบื้องต้นจะเป็นกำแพงสำคัญที่กั้นท่านและบุคคลรอบข้างให้ห่างจากภัยอันตรายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ อย่างแน่นอน
1. การป้องกันและการลักทรัพย์ในที่พักอาศัย
อยู่แต่ในบ้านใช่ว่าจะปลอดภัยเมื่อไหร่กัน ข่าวคราวขโมยขึ้นบ้านลักทรัพย์ยังดังระงมอย่างครึกโครม ฉะนั้นท่านควรจะดูแลที่พักอาศัยให้อยู่ในสภาพที่มิดชิดไม่เป็นสิ่งล่อใจให้คนร้ายกระทำการในบ้านท่านได้
* ตัวบ้าน การป้องกันที่ดีควรเริ่มจากการมีบ้านที่ปลอดภัย ด้วยการหมั่นตรวจตราอุปกรณ์ของบ้านอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยเสียจนคนร้ายสามารถงัดแงะเข้ามาได้ง่าย โปรดสละเวลาเพียงเล็กน้อยแล้วปฏิบัติตามดังนี้
- รั้วบ้านควรทำให้สูงและแข็งแรง
- สำหรับบ้านสองชั้นที่ต่อเนื่องกับครัวควรทำประตูให้แน่นหนา
- กลอนประตูก็ควรเลือกชนิดที่มั่นคงแข็งแรง หน้าต่างประตูทุกบานควรมีการติดลูกกรง
เหล็กเพราะจะทำให้คนร้ายงัดยากมากขึ้น
- ติดตั้งสวิตซ์ไฟทุกชนิดไว้ในบ้าน
- ควรเลี้ยงสุนัขไว้ส่งเสียงดังช่วยเตือนภัย หรือติดตั้งสัญญาณไซเรนคอยส่งสัญญาณให้
เพื่อนบ้านใกล้เคียงทราบเวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น
- ที่ว่างเปล่าที่ติดกับบ้าน ไม่ควรปล่อยให้มีต้นไม้ขึ้นสูงเพราะคนร้ายอาจใช้เป็นที่กำบัง
ตัวไว้
* สมาชิกของบ้าน มีเทคนิคง่าย ๆ สำหรับผู้อยู่อาศัยเพื่อกันภัยร้ายไม่ให้กรายใกล้
อยู่บ้านอย่างไรให้อุ่นใจ
- เมื่อเปิดประตูบ้านรับใครควรดูให้แน่ใจเสียก่อนว่าเป็นคนแปลกหน้าหรือเปล่า
- เมื่อมีคนโทรศัพท์มาถามว่ามีใครอยู่บ้านหรือไม่อาจเป็นการหาโอกาสของคนร้าย
ให้ตอบว่าอยู่กันหลายคน
- ควรอธิบายแก่คนใช้หรือผู้อื่นให้ทราบถึงกลอุบายต่าง ๆ ที่คนร้ายมักใช้เพื่อป้องกัน
อย่าให้หลงเชื่อคนร้าย และเพิ่มความพร้อมในการป้องกันเหตุร้าย
สุขใจแม้อยู่ไกลบ้าน
- ก่อนออกจากบ้านควรปิดประตู หน้าต่าง ใส่กุญแจให้เรียบร้อย
- หยุดบอกรับหนังสือพิมพ์ขณะที่ไม่อยู่
กลางคืนยังหลับสบาย
- ตอนกลางคืน ควรรูดม่านปิดไม่ให้คนภายนอกมองเห็นด้านใน
- ถ้ามีคนอยู่บ้านก็ไม่ควรเปิดไฟทิ้งไว้ในบ้านเพราะคนร้ายจะมองเห็นทรัพย์สินภาย
ในได้ ควรเปิดไฟทิ้งไว้รอบนอกบ้านจะทำให้มองจากภายในเห็นข้างนอกได้ แต่ถ้า
ไม่มีใครอยู่ก็ควรเปิดไฟทิ้งไว้ในบางห้อง
ร่วมมือร่วมใจ กันภัยไกลห่าง
- ให้ความร่วมมือกับเพื่อนบ้านในการสอดส่องดูแลชุมชนที่ตนอยู่อาศัย
- ร่วมกันจัดระบบการป้องกันต่าง ๆ ในชุมชน เช่น จัดเวรยามหมู่บ้าน ติดสัญญาณ
ขอความช่วยเหลือเมื่อมีเหตุร้าย
เล็กน้อย แต่ห้ามลืม !!!
- ไม่ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในบ้าน หรือถ้าจำเป็นก็ควรจดรายละเอียดของทรัพย์สิน
นั้นและถ่ายรูปเก็บไว้ตามแบบฟอร์มที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิมพ์แจกจ่าย
- ตรวจสอบบัตรประจำตัวของช่างซ่อมต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในบ้าน และอย่าปล่อยให้
ใครเข้ามาโดยไม่แน่ใจว่าคน ๆ นั้น เป็นบุคคลตามที่อ้างไว้ ตลอดจนพยายามจำ
ลักษณะของคนแปลกหน้าหรือทะเบียนรถที่ต้องสงสัยเข้ามาในละแวกบ้าน
- ควรมีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรต่าง ๆ ของคนรับใช้ รวมทั้งรูปถ่าย
รายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็น หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อ
สอบประวัติก็ให้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ในท้องที่
เพียงปฏิบัติตามข้อต่าง ๆ ดังข้างต้น ท่านก็สามารถป้องกันเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าหากยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแก่ตัวท่านจริง ๆ ก็อย่าคิดจับคนร้ายด้วยตนเองและพยายามป้องกันโดยบอกเหตุการณ์แก่เพื่อนบ้านให้คอยระวังอีกทั้งควรดูแลป้องกันสถานที่เกิดเหตุ อย่าให้บุคคลอื่นเข้าไปหากไม่ใช่ ตำรวจ
2. การป้องกันการลักทรัพย์ในที่สาธารณะ
บ่อยครั้งที่ท่านต้องออกไปทำธุระยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นเคยหรือเป็นที่ที่คนพลุกพล่าน ยิ่งประเทศชาติกำลังประสบเหตุหายนะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ย่อมเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ปริมาณมิจฉาชีพเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อตัวท่านและทรัพย์สิน ควรปฏิบัติตนดังนี้
เก็บเงินอย่างไรให้ปลอดภัย
- อย่านำของมีค่าหรือทรัพย์สินจำนวนมากติดตัวออกนอกบ้าน
- เก็บกระเป๋าสตางค์ให้มิดชิดในที่ที่รู้สึกเมื่อหายไป
- กระเป๋าถือของสตรีก็ไม่ควรหิ้วหรือสะพายบ่าไว้ ควรใช้มือจับ
หน้าตาใส ๆ แต่ใจเป็นโจร
- พึงระลึกไว้เสมอว่าคนร้ายเป็นได้ทุกเพศทุกวัย แต่งกายได้ทุกรูปแบบ มักแต่งกายสุภาพเรียบร้อยและถือสิ่งของที่ใช้บังตาได้ดี
ระวัง !! ที่คนพลุกพล่าน
- เมื่อต้องไปในสถานที่ที่เบียดเสียดแน่นหนาควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
- ถูกชนหรือเบียดควรรีบสำรวจทรัพย์สินที่นำติดตัวไปด้วยทันที
- เมื่อรู้ตัวว่าถูกล้วงกระเป๋าควรส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือทันที
- รีบไปแจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด
- เมื่อพบเห็นคนร้ายกำลังล้วงกระเป๋าบุคคลอื่นก็ควรช่วยกันจับกุมหรือแจ้งแก่เจ้า
หน้าที่ตำรวจ สังคมจะสงบสุขได้ถ้าทุกคนมีน้ำใจต่อกัน
3. การป้องกันการปล้นทรัพย์ในสถานที่ประกอบการค้า
มีร้านค้ามากมายที่คนร้ายหมายตาเข้าชิงทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านขายทองรูป-
พรรณหรือเครื่องประดับมีราคาทั้งหลาย ถึงอย่างไรร้านค้าประเภทอื่น ๆ ก็ประมาทไม่ได้ ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้ * ตัวร้านค้า ควรติดกลอนประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่มีสภาพมั่นคงแข็งแรงโดยหมั่นตรวจตราทุกครั้ง และไม่ควรติดกลอนประตู หน้าต่างไว้ด้านนอกเพราะคนร้ายจะใช้เป็นห้องขังได้อย่างดี อีกทั้งควรติดสัญญาณเตือนภัยในหลาย ๆ แห่ง การจัดร้านค้าก็ควรให้สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
* ผู้ประกอบการ ถ้าปฏิบัติตามเคล็ดลับดังนี้ รับรองว่าอยู่ร้านสบายหายห่วง
รายการทรัพย์สิน
- จดรายละเอียดเครื่องประดับสำหรับขายและถ่ายรูปเก็บไว้ทุกชิ้น
- ไม่ควรเก็บเงินสดหรือทรัพย์สินมีค่าจำนวนมากในร้านค้า
ขณะมีลูกค้าเข้าร้าน
- เมื่อมีลูกค้ามาขอดูก็ไม่ควรนำสินค้าหรือเครื่องประดับที่มีราคาแพงออกมาให้เลือก
หลาย ๆ แบบในคราวเดียวกัน
- เวลาจะไปหยิบสิ่งของที่ห้องเก็บของก็ไม่ควรปล่อยหน้าร้านทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล
- อย่าปล่อยให้เด็กกับสตรีอยู่ดูแลร้านเพียงลำพัง
- ระมัดระวังคนแปลกหน้าที่มาเดินวนเวียน
- จดจำรูปพรรณของบุคคลที่เข้ามาในร้านค้า หากเป็นคนร้ายจะได้แจ้งรายละเอียด
ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้
การเปิด-ปิดร้าน
- ไม่ควรเปิดร้านแต่เช้าตรู่ และไม่ควรปิดร้านในเวลาค่ำหรือดึกเกินไป
- ขณะที่กำลังจะปิดร้าน หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาติดต่อ ให้ใช้ความระมัดระวัง
เป็นพิเศษเพราะอาจเป็นคนร้ายได้ ถ้าเป็นไปได้ควรปฏิเสธในทุกเรื่องโดยอ้างว่า
ปิดร้านแล้ว
ร่วมด้วยช่วยกันสอดส่อง
- ผูกมิตรกับเพื่อนบ้านเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาซึ่งกันและกัน
- ควรจัดเวรยามดูแลทรัพย์สินในเวลากลางคืน
เมื่อเกิดเหตุร้าย !!
- เมื่อเกิดเหตุร้ายควรพยายามระงับสติอารมณ์แล้วจดจำลักษณะรูปพรรณคนร้าย
- อย่าพยายามจับคนร้ายโดยลำพังด้วยตนเอง เมื่อคนร้ายก่อเหตุให้รีบแจ้งเจ้าหน้า
ที่ตำรวจทราบโดยเร็ว
- พยายามรักษาสถานที่เกิดเหตุไว้อย่าให้ใครเข้าไปเกี่ยวข้องจนกว่าตำรวจจะไปถึง
4. การป้องกันการปล้นชิงหรือวิ่งราวผู้เบิกเงิน
สำหรับลูกจ้างหรือพนักงานทั้งหลายที่มักจะต้องเข้าออกธนาคารเพื่อเบิกเงินจำนวนมากเป็นประจำในทุก ๆ สิ้นเดือน หรือเวลาใดก็ตาม ควรปฏิบัติตนดังนี้
การเบิก-ถอนเงิน
- การไปเบิกเงินจำนวนมากจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ควรขอเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกัน
- ไม่ควรกระทำในเวลาใดเวลาหนึ่งเป็นประจำ
- เมื่อเบิกเงินมาได้แล้วควรนับเงินในที่ลับตา
- ไม่ควรใส่เงินไว้ในถุงของธนาคาร ควรแยกเก็บไว้หลาย ๆ แห่ง
คนแปลกหน้า
- ควรระมัดระวังบุคคลแปลกหน้าที่ติดตาม
- ถ้าพบพาหนะใดแล่นติดตามมาผิดสังเกตหรือสงสัยว่าอาจเป็นคนร้ายควรขับรถไป
หาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใกล้ที่สุด
- อย่าหยุดหรือจอดรถเพื่อนำเงินออกจากรถเด็ดขาด
- เมื่อเกิดเหตุร้ายไม่ควรตามจับคนร้ายด้วยตนเอง แต่ควรพยายามจดจำราย
ละเอียดเกี่ยวกับคนร้ายให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งรักษาสถานที่เกิดเหตุ ไม่ให้ใคร
เข้าไปเกี่ยวข้องจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง
5. การป้องกันการชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายในอาคาร
ตามอาคารต่าง ๆ แม้จะมียามเฝ้ารักษาการณ์ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยสำหรับตัวท่าน เนื่องจากพื้นที่อาคารบางส่วนเข้าข่ายสนับสนุนให้คนร้ายก่อการได้โดยง่าย เช่น ในลิฟท์ ที่จอดรถเปลี่ยว หรือแม้แต่ในห้องพักตามโรงแรม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น ควรปฏิบัติดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้สถานที่ที่มีสภาพเปลี่ยว เหมาะสำหรับเปิดโอกาสให้คนร้ายชิงทรัพย์
ได้ หรือหากจำเป็นก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
- สำหรับสุภาพสตรีก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินลำพังในที่เปลี่ยวมืดหรือลานจอดรถขนาด
ใหญ่ และถ้าจะใช้ลิฟท์ที่มีเพียงชายแปลกหน้าเท่านั้น ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิฟท์นั้น
- เวลามีคนกดกริ่งเรียกตามห้องพักในโรงแรม ควรดูให้แน่ชัดเสียก่อนเปิดประตูทางช่อง
ดูภายนอกซึ่งอยู่ที่ประตู และเวลาปิดประตูควรใส่กลอนประตูล็อกกุญแจ คล้องโซ่
ประตูด้วย
เหตุการณ์ที่ก่อความวุ่นวายไม่สงบในสังคมที่มักจะพบเห็นคือ การขู่ลอบวางระเบิดตามสถานที่สำคัญทางราชการ หรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือบางทีอาจเป็นบ้านของท่านเองโดยที่สาเหตุนั้นอาจเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเป็นเพียงการกลั่นแกล้งกันเท่านั้นเมื่อเกิดระเบิดย่อมมีความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีควรมีการป้องกันไว้เสียแต่เนิ่น ๆ
- พาหนะที่จอดไว้ในบ้านหรือสำนักงานต้องล็อกประตูฝากระโปรงหลังและถังน้ำมัน
เพื่อป้องกันการลอดวางระเบิด
- พบบุคคลที่มีพิรุธ พยายามจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลนั้นแล้วรีบแจ้งเจ้าหน้า
ที่ตำรวจให้ทราบทันที
- พบวัตถุน่าสงสัยหรือผิดสังเกต อย่าแตะต้อง เปิดดู หรือทำให้กระทบกระเทือนด้วย
การยกหรือเขย่า ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และอย่าทำให้คนอื่นรอบข้าง
เกิดความตื่นตกใจจนโกลาหล ควรให้ประชาชนออกจากพื้นที่โดยสงบ ถ้าเป็นไป
ได้ควรนำยางรถยนต์มาล้อมวัตถุที่ต้องสงสัยนั้น
- อย่าพยายามใช้เครื่องมือสื่อสารหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใกล้วัตถุต้องสงสัย
- เมื่อเกิดระเบิดขึ้น อย่างเข้าไปในที่เกิดเหตุ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจและ
ประชาชนควรให้ความร่วมมือโดยไม่เข้าไปมุงซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ยากยิ่งขึ้น
การหลอกลวงต้มตุ๋นด้วยวิธีการต่าง ๆ มักพบเห็นอยู่เสมอในสังคม เพราะมิจฉาชีพจะพยายามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อล่อให้ท่านหลงเชื่อจนเสียทรัพย์สินให้แก่คนเหล่านี้อย่างง่ายดาย หลักสำคัญ
ของการป้องกันการต้มตุ๋นไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม คือ อย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้า และ อย่าโลภมากจนเกินไป ซึ่งมิจฉาชีพมักจะใช้เงินทองจำนวนมากหลอกล่อเหยื่อเสมอ ดังนั้นท่านควรตระหนักให้ดีในข้อนี้พร้อมทั้งพยายามพิจารณาด้วยเหตุผลก่อนที่จะปักใจเชื่อกับสิ่งใด และทุกครั้งที่พบการกระทำเข้าข่ายหลอกลวงต้มตุ๋น ก็ควรจดจำรายละเอียดของมิจฉาชีพแล้วนำไปแจ้งต่อตำรวจทันที ทั้งนี้รูปแบบของการต้มตุ๋นสามารถสรุปได้ดังนี้
** โดยการเล่นไพ่ 3 ใบ วันหนึ่งถ้าเกิดจู่ ๆ มีคนมาชักชวนหรือท้าท่านให้เล่นการพนันด้วยการทายไพ่ 3 ใบ ที่คน ๆ นั้นมีว่าเขาจะทายถูกหรือไม่ ถ้าพบเห็นวิธีการในรูปแบบนี้ ก็ควรระมัดระวังคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาตีสนิท อย่านึกคึกคะนองหรือประมาทหลงเชื่อเช่นพนันไปกับเขา และสำหรับตัวท่านเองก็ไม่ควรนำทรัพย์สินติดตัวไปเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญจงตระหนักไว้เสมอว่า
การพนันไม่เคยสร้างความร่ำรวยให้แก่ใครได้อย่างถาวร พร้อมทั้งติดตามให้ความสนใจต่อพฤติกรรมของคนร้ายที่หลอกลวงในลักษณะนี้ เพื่อจะได้ระมัดระวัง
** โดยวิธีการเสนอขายของเก่า มิจฉาชีพจะพยายามโฆษณาว่าสินค้านั้นเป็นของโบราณมีค่า ดังนั้นท่านก็อย่าหลงเชื่อจนกว่าจะทดสอบของนั้นด้วยตัวเองว่ามีค่าจริง และควรตรวจสอบรุ่น ยี่ห้อ ให้แน่ชัด หากไม่มีความชำนาญในเรื่องของเก่า ก็อย่าซื้อสินค้าดังกล่าวโดยเด็ดขาด ควรปรึกษาหารือกับผู้รู้ให้ได้ตรวจสอบเสียก่อน
** โดยวิธีการหลอกขายที่ดิน ที่ดินถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามีราคา ใคร ๆ ก็อยากมีที่ดินไว้ในครอบครองของตน ยิ่งในช่วงระยะเวลา 4 5 ปีที่ผ่านมา มีการเก็งกำไร ปั่นที่ดินจนมีราคาสูงลิบลิ่ว การขายที่ดินเริ่มแพร่ระบาดทุกหย่อมหญ้าเครื่องมือหากินของเกษตรกรต่างตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายทุนแล้วแปรสภาพเป็นรีสอร์ทบ้าง เป็นคอนโดมิเนียมสุดหรู (แต่ไม่มีคนอยู่) บ้าง
เมื่อประเทศเข้าสูสภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ยุคทองของการซื้อขายที่ดินกลายเป็นยุคมืด แต่ก็ใช่ว่าวิธีการหลอกขายที่ดินจะลบเลือนหายตามไปด้วย จึงควรปฏิบัติดังนี้หากมีบุคคลมาเสนอขายที่ดินกับท่าน
- ควรไปดูที่ดินด้วยตนเอง ไม่ควรตกลงโดยทันที ควรตรวจสอบโฉนดกับสำนักงานที่
ดินให้แน่นอนเสียก่อนจะทำการซื้อขาย และอย่าให้ใครยืมโฉนดโดยไม่จำเป็น
- ก่อนจะทำสัญญาซื้อขายควรปรึกษากับผู้รู้เสียก่อน
- การจ่ายเงินแต่ละครั้งควรกระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานเสมอ และควรมีบุคคลที่เชื่อ
ถือได้เป็นประกันจึงค่อยชำระเงิน
** โดยวิธีการทำของตก คนร้ายมักจะทำสิ่งของมีค่าตกไว้เพื่อล่อให้เหยื่อเก็บและเข้าติดกับที่วางไว้ ดังนั้นทางที่ดี ท่านไม่ควรหลงเชื่อคนง่าย ควรระมัดระวังคนแปลกหน้า และอย่าโลภมาก
** โดยวิธีการขอยืมเครื่องประดับตกแต่ง คนร้ายจะพยายามเข้ามาตีสนิทแล้วมักจะขอยืมสิ่งของมีค่ากับท่านโดยให้คำมั่นว่าจะนำมาคืน ท่านก็อย่าหลงเชื่อคนง่าย และทางที่ดีไม่ควรนำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไว้เลยระหว่างการเดินทางควรเก็บไว้ให้มิดชิด อย่าให้เป็นที่ล่อตาล่อใจของผู้อื่น
** โดยหลอกล่อว่าญาติเจ็บป่วย เรื่องนี้ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะเชื่อคำ
บอกเล่า
นอกจากนี้ยังมีวิธีการต้มตุ๋นสารพัดที่จะทำให้ท่านหลงเชื่อจนต้องเสียทรัพย์สินมีค่าไป
เพราะฉะนั้น อย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ เป็นอันขาดโดยปราศจากการไตร่ตรองแล้วด้วยเหตุและผล
8. การป้องกันการหลอกลวงโดยการจัดหางาน
ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่จะต้องพึ่งการส่งออกสินค้านำเงินตราเข้าสู่ประเทศ การส่ง
ออกแรงงาน ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่หลายฝ่ายต่างเล็งเห็นว่าสามารถช่วยฉุดเศรษฐกิจไม่ให้ดิ่งลงเหวเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการจัดหางานต่างประเทศให้กับคนไทยจึงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผ่านบริษัทนายหน้าหรือแม้แต่งานภายในประเทศก็เช่นกันที่มีบริษัทจัดหางานมากมายต่างเสนอช่องทางทำกินให้แก่ประชาชน หากประชาชนรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วย่อมตกเป็นเหยื่อของบริษัทเถื่อนที่คอยหลอกลวงได้ เพราะฉะนั้นควรปฏิบัติดังนี้
- อย่าหลงเชื่อคนง่าย ควรตรวจสอบหรือสอบถามจากผู้รู้ที่สามารถให้คำปรึกษาใน
เรื่องต่าง ๆ ได้
- ไม่ควรจ่ายเงินแก่นายหน้าล่วงหน้า หากจำเป็นควรทำหนังสือสัญญาโดยทำต่อ
เจ้าหน้าที่พนักงานหรือมีคนค้ำประกันเป็นหลักฐาน
- เมื่อเกิดความสงสัยว่าอาจถูกหลอกควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
นอกจากนี้ท่านสามารถติดต่อกับกรมการจัดหางานซึ่งมีหน้าที่ในการจัดหางานให้กับประชาชนรวมทั้งให้คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ อย่างครอบคลุมและกว้างขวางที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาท่านควรปรึกษากับสำนักงานจัดหางานในพื้นที่ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการที่จะคอยบริการท่านในเรื่องดังกล่าว
** สำนักงานจัดหางานในกรุงเทพฯ มีจำนวน 9 แห่ง ดังนี้
1. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 1 วิภาวดีรังสิต รับผิดชอบปฏิบัติงานในเขตดินแดง
ห้วยขวาง พญาไท ราชเทวี โทร. 617-6568
2. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 2 จตุจักร รับผิดชอบเขตจตุจักร บางเขน ดอนเมือง
โทร. 272-0980
3. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 3 บางรัก รับผิดชอบเขตบางรัก ปทุมวัน สัมพันธวงศ์
โทร. 233-3384-7
4. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 4 ราชดำเนิน รับผิดชอบเขตพระนคร ดุสิต บางซื่อ
ป้อมปราบ โทร. 280-07855. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 5 ธนบุรี รับผิดชอบเขตธนบุรี คลองสาน
บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย โทร. 437-58556. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 6 ราษฎร์บูรณะ รับผิดชอบเขตบางขุนเทียน
จอมทอง โทร. 427-45127. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 7 พุทธมณฑล รับผิดชอบเขตหนองแขม ภาษีเจริญ
ตลิ่งชัน บางพลัด โทร. 803-04008. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 8 รามอินทรา รับผิดชอบเขตมีนบุรี หนองจอก
ลาดกระบัง บึงกุ่ม ลาดพร้าว บางกะปิ โทร. 510-36029. สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ 9 พระโขนง รับผิดชอบเขตพระโขนง คลองเตย
สวนหลวง สาธร ประเวศ ยานนาวา บางคอแหลม โทร. 332-9105
** เอกสารที่ต้องนำไปติดต่อกับกรรมการจัดหางาน
* สำหรับนายจ้าง
- ทะเบียนพาณิชย์หรือทะเบียนการค้า (กรณีเป็นนิติบุคคล) หรือสำเนาทะเบียน
บ้าน ( กรณีเป็นบุคคลธรรมดา )
- หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ/ผู้รับมอบอำนาจ
* สำหรับผู้หางาน
- บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนา
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาหลักฐานการศึกษา
- รูปถ่าย
- อื่น ๆ เช่น หลักฐานการพ้นภาระทางทหาร ใบรับรองการผ่านงาน
หญิงทั้งหลายพึงระวังอาชญากรรมใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรปฏิบัติตนดังนี้
- ไม่ควรเดินทางไปไหนเพียงลำพังและในเวลากลางคืน
- อย่าเชื่อคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และอย่าหลงเชื่อเพราะเห็นแก่หน้าที่
การงานหรือรายได้
- ไม่ควรไปไหนมาไหนกับชายแปลกหน้า และอย่าคิดว่าผู้ที่แต่งตัวสุภาพ ดูมีฐานะ
จะไม่ใช่คนร้าย
- อย่าดื่มสุราหรือของมึนเมาทุกชนิด
- การไปรอรถโดยสาร ไม่ควรพูดคุยกับคนแปลกหน้า
- ควรอบรมลูกหลานหรือญาติพี่น้องให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนร้าย พร้อมทั้งช่วย
สอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่
10. การป้องกันการจับเรียกค่าไถ่
มักจะเกิดขึ้นกับเด็กที่เป็นบุตรหลานของท่าน ดังนั้นควรปฏิบัติดังนี้
- อย่าปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง พร้อมทั้งอบรมลูกหลานอย่าให้เชื่อคนแปลกหน้า
และอย่าไปไหนกับคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด ถึงแม้จะอ้างว่าพ่อแม่ให้มารับก็ตาม
- อบรมเด็กอย่าให้รับของหรืออาหารและเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า
- การับคนเลี้ยงดูเด็ก ควรทำประวัติ ถ่ายรูปเก็บไว้ และควรเป็นบุคคลที่รู้จักคุ้นเคย
กันมาก่อนจนไว้วางใจได้
- เมื่อมีเหตุสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด และพยายามจดจำราย
ละเอียดของคนร้าย ยานพาหนะ อาวุธ เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน
ของเจ้าหน้าที่
11. การป้องกันการข่มขืนกระทำชำเรา
เรื่องนี้ถือเป็นภัยมืดต่อผู้หญิงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาใครเลยจะรู้ว่าบนถนนที่ทอดยาวนั้นจะแฝงภัยร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด สตรีเพศทั้งหลายจึงควรระลึกไว้เสมอว่า
- ไม่ควรเดินทางคนเดียวโดยลำพังตามตรอกซอกซอยที่เปลี่ยวมืด ควรหาเพื่อนร่วม
เดินทางไปด้วย
- อย่างแต่งตัวโป๊หรือโชว์สัดส่วนมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดการข่มขืนกระทำ
ชำเราหรืออนาจารขึ้นได้
- ไม่ควรขึ้นรถยนต์หรือจักรยานยนต์เมื่อมีคนแปลกหน้าชวนให้ขึ้น
- เมื่อมีคนมาตีสนิททำนองเคยรู้จักกันมาก่อนทั้ง ๆ ที่ท่านไม่เคยรู้จัก ก็ควรหลีกเลี่ยง
บุคคลเช่นนี้ ถ้าเป็นไปได้ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่อยู่ใกล้เคียง
- พยายามหลีกเลี่ยงงานสังสรรค์กลางคืนต่าง ๆ นอกจากจะมีคนสนิทหรือญาติคอย
รับส่ง
- เมื่อมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านในตอนกลางคืน ควรบอกให้ทางบ้านทราบว่า
จะไปไหน ไปพบใคร อย่างไร และกลับเมื่อไร และควรพกบัตรประจำตัวประชาชน
ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
12. การป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์
รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง จึงเป็นที่หมายปองของคนร้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้เป็นอย่างดี จึงแนะนำวิธีการป้องกันรถยนต์ และรถจักรยานยนต์จากการถูกโจรกรรม ดังนี้
- เมื่อซื้อรถใหม่ รถใหม่เป็นรถที่คนร้ายสามารถนำไปขายได้ง่ายและมีราคาสูง เพื่อความปลอดภัยท่านควรจอดรถในสถานที่ที่มีคนดูแลและติดตั้งอุปกรณ์กันขโมย
- เมื่อต้องการซื้อรถมือสอง ก่อนจะตกลงซื้อควรขอหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และหมายเลขทะเบียนรถมาตรวจสอบกับหน่วยทะเบียนยานพาหนะที่รถคันนั้นมีทะเบียนอยู่ และควรเปลี่ยนกุญแจประตู กุญแจเครื่องยนต์ใหม่ เพราะกุญแจเดิมอาจอยู่ในมือคนร้ายจะโดยวิธีใดก็ตาม และตรวจสอบความถูกต้องของสมุดคู่มือจดทะเบียนรถด้วย
- การนำรถไปจอดในสถานที่ต่าง ๆ ท่านควรจอดรถไว้ไม่ให้อยู่ห่างสายตาและควรมีคนเฝ้าดูแล ทุกครั้งที่จะจอดรถต้องล็อกประตู ปิดกระจกให้เรียบร้อย เปิดสวิตซ์ป้องกันขโมยไว้ทุกครั้ง ไม่ควรจอดรถในที่ลับตาคนหรือค้างคืน
สำหรับการจอดรถในบ้านหรือใกล้บ้าน ควรจอดรถในบริเวณที่มีแสงสว่างเห็นได้ชัด ถ้าเป็นนอกบ้านควรทำรั้วรอบของชิดหรือทำโรงไว้เก็บรักษารถ และสำหรับการนำรถไปจอดเพื่อล้างอัดฉีดทุกครั้งก็ควรดูแลด้วยตนเอง หรือไม่ก็ควรนำรถไปล้างอัดฉีดที่สถานบริการที่ท่านคุ้นเคยและไว้วางใจได้
- การนำรถไปซ่อมแซมแก้ไข เนื่องจากช่างซ่อมเครื่องยนต์ เคาะ พ่นสี เป็นผู้มีความรู้ความสามารถชำนาญในกลไกของรถเป็นอย่างดี และอาจเป็นหนึ่งในแก๊งของคนร้ายได้ ฉะนั้นการจะนำรถไปซ่อมควรเป็นสถานบริการที่ท่านมีความสนิทสนมคุ้นเคยและไว้วางใจได้ หรือคอยควบคุมการซ่อมโดยตลอด
- การใช้กุญแจ รถบางชนิดใช้กุญแจรถชนิดเดียวกันกับเปิดประตูเครื่องยนต์ เปิดลิ้นชักและฝาน้ำมัน ฉะนั้นเมื่อฝาน้ำมันหยายอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายได้นำไปเพื่อทำแบบสร้างกุญแจปลอมสำหรับนำมาใช้โจรกรรมรถของท่าน ดังนั้นท่านควรรีบเปลี่ยนกุญแจเสียใหม่ โดยใช้กุญแจที่ใช้ได้เฉพาะแห่งเท่านั้น และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ความระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์ ป้องกันการโจรกรรม ควรเก็บความลับเกี่ยวกับกลไกต่าง ๆ และกระทำอย่างมิดชิดลับตาผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อจอดรถแล้ว เวลาจะใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ อาจมีคนร้ายคอยสังเกตสถานที่ตั้ง รูปแบบและวิธีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว
- ตำหนิรูปพรรณยานพาหนะ ท่านควรทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถโดยละเอียด เช่น หมายเลขประจำตัวถังรถ หมายเลขประจำเครื่องยนต์ เลขทะเบียนและลักษณะพิเศษอื่น ๆ หรือหากรถท่านไม่มีลักษณะพิเศษก็ควรทำขึ้นมาโดยที่ไม่มีผู้ใดรู้นอกจากตัวท่านเอง และต้องเป็นลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย โดยจดรายละเอียดหรือถ่ายภาพไว้
- การถูกติดตามขณะขับรถ เมื่อสังเกตว่ามีผู้ขับรถติดตามมา พึงสังวรไว้ว่าผู้ที่ติดตามอาจกำลังหาช่องทางโจรกรรมรถของท่าน ควรแจ้งตำรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ทราบ และไม่ควรรับคนแปลกหน้าขึ้นรถในที่เปลี่ยว
13. การป้องกันการชิงทรัพย์ในร้านเสริมสวย คลินิก
1. จัดให้มีพนักงานคอยปิดเปิดประตูทางเข้าด้านหน้า รอรับลูกค้าและคอยสังเกตการณ์ หากพบพิรุธจากผู้มาติดต่อคนใดซึ่งสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายจะได้รีบแจ้งตำรวจหรือจดจำตำหนิรูปพรรณไว้สกัดจับติดตามตัวต่อไปได้
2. แนะนำลูกค้าผู้มารับบริการ ไม่ควรสวมใส่ทรัพย์สิ่งของมีค่าติดตัวมาด้วย
3. กรณีใกล้เวลาจะปิดการให้บริการ หรือเหลือลูกค้าอยู่จำนวนน้อย ควรจะปิดประตูด้านหน้า จะเปิดรับต่อเมื่อตรวจสอบแน่ใจแล้ว เพราะคนร้ายมักฉวยโอกาสช่วงนี้กระทำการ
4. ติดตั้งกริ่งหรือไซเรนสัญญาณเตือนภัยไว้ที่ด้านหน้าร้าน โดยซุกซ่อนสวิตซ์เปิดปิดเอาไว้อย่างน้อย 2 จุด หากเกิดเหตุร้ายจะได้กดสวิตซ์แจ้งเหตุให้บุคคลภายนอกได้ทราบเพื่อช่วยกันสกัดติดตามและแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที